ดี-สไปริน่า (D-SPYRINA) ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ
1. ผู้คนในยุคปัจจุบันมักจะอดอาหารเช้า เนื่องจากเร่งรีบ ละเลยไม่ให้ความสำคัญอาหารเช้ามักจะทานกาแฟและขนมปังตามกระแสวัฒนธรรมตะวันตก ทั้งๆ ที่ราคาสูงกว่าและประโยชน์ที่ได้ต่างจากข้าวแกง พะแนงไข่ดาว ข้าวกระเพราไก่ไข่เจียว ผัดผักรวมมิตร แกงมะระยัดไส้หมู (คิดไปก็หิวไป) อาหารเช้าเหล่านี้จะถูกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่เป็นกรดย่อยจนขนาดเล็กลง และดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด สร้างพลังงานให้เราทั้งวัน ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าทั้งวัน การันตีโดยพระสายปฏิบัติทั่วประเทศ ท่านฉันมื้อเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันแถมยังต้องใช้แรงเดินทางไกลบิณฑบาต ไม่ได้นั่งขยับแค่นิ้วมือเหมือนคนเมืองเสียด้วย
อาหารเช้าควรทานช่วงเวลา 7:00 – 9:00 น. เป็นช่วงเวลา 2 ชั่วโมงอันมีค่าในการย่อยอาหารของร่างกายเพราะเป็นเวลาของลมปราณกระเพาะ อาหารตามนาฬิกาชีวิต ใครที่ไม่ค่อยทานอาหารเช้า หรือ ชอบทานอาหารแบบรวบยอดทีเดียวตอนเที่ยง สังเกตได้ว่าริมฝีปากจะไม่ค่อยมีสีเพราะเม็ดเลือดน้อย ลิ้นไม่มีเลือดฝาด ริมฝีปากบนแห้ง ง่วงนอนง่าย ออกกำลังกายแล้วมึนศีรษะ และมีอาการอยากทานกาแฟหรือของหวานเพราะขาดพลังงานต้องใช้ตัวช่วย บางท่านก็ติดกาแฟไปเลยทานกันแก้วต่อแก้ว
อาหารเช้าสิ่งจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่แข็งแรง สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทอง จึงถูกนำมาเป็นตัวแทนของอาหารเช้าที่มีประโยชน์ โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีนที่เข้มข้น สูงถึง 70% จึงเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีของมนุษย์และสัตว์ โดยโปรตีนจากสาหร่ายเหนือกว่าโปรตีนจากถั่วเหลืองและเนื้อสัตว์ คือ สามารถย่อย และดูดซึมได้ถึง 90% ดังนั้นจึงแทบไม่เหลือของเสียตกค้างในร่างกาย
สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ดี ซึ่งกระเพาะอาหารที่ย่อยได้ไม่ดี คือต้นเหตุของอาการป่วยต่างๆ โดยโคโรฟิลล์ในสาหร่ายสไปรูลิน่า ช่วยเคลือบแผลที่อักเสบของกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยผิดปกติ และลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสาหร่ายสไปรูลิน่า มีเมสาฟิรีน (mesafirine) ซึ่งเป็นตัวยับยั้งการเกิดแผลเปื่อยที่มีประสิทธิภาพตัวหนึ่ง
2. ช่วยลดคอเลสเตอรอล เนื่องจากไขมัน คอเลสเตอรอล ถือเป็นระเบิดเวลาของชีวิต คอยคร่าชีวิตคนรอบตัวโดยไม่ทันได้ร่ำลา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอาหารการกินที่มีไขมันตัวร้าย (ไขมันอิ่มตัว และ ไขมันทรานส์) ที่จะคอยลดพื้นที่ผนังหลอดเลือดของเราให้เล็กลงทุกวันจน เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก เกิดเป็นโรคหัวใจ ความดันสูง หลอดเลือดตีบตัน และอัมพฤกษ์ อัมพาต
สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหารที่ช่วยเสริมบำรุงให้ตับ สามารถสร้าง HDL (ไขมันชนิดดี) ได้เอง ซึ่งหน้าที่ของ HDL คือ ทำหน้าที่ขนส่ง cholesterol และ กรดไขมัน จากส่วนต่างๆ ของร่างกายไปที่ตับเพื่อทำลาย ดังนั้น การมี HDL ในปริมาณมากยิ่งทำให้ห่างไกลต่อโรคระบบหลอดเลือด สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทอง มีกรดแกมม่าไลโนเลนิก (GLA) สูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งกรดนี้มีคุณสมบัติ ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน ผิวหนังอักเสบ และสิวฝ้า
3. ต้านอนุมูลอิสระ
การเกิดอนุมูลอิสระ (free radical) จากกระบวนการปกติในร่างกาย เช่น การหายใจ การย่อยอาหาร การผลิตพลังงาน รวมทั้งปัจจัยภายนอกบางอย่าง เช่น ความเครียด รังสียูวี มลภาวะ ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ เมื่ออนุมูลอิสระทำปฏิกิริยากับโมเลกุลอื่นที่แข็งแรงในร่างกาย ก็จะทำให้โมเลกุลที่แข็งแรงกลายเป็นอนุมูลอิสระ และก็จะไปไล่ขโมยความสมบูรณ์ต่อ เรียกว่า ปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเกิดอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เกิดความเสียหายของเซลล์ การเกิดริ้วรอยก่อนวัยและโรคภัยไข้เจ็บ อาทิ โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ มะเร็ง รวมถึงความเสื่อมทั้งมวลในร่างกาย โดยเบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบมากในหัวแครอทซึ่งสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองมี เบต้าแคโรทีนเข้มข้นมากกว่าแครอทถึง 25 เท่า เบต้าแคโรทีนในสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพ สามารถช่วยชะลอความแก่ ต้านทานโรคแห่งความเสื่อม และสร้างภูมิต้านทานโรคได้
4. สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองช่วยการสร้างเลือด หากเรามีปัญหาที่กระเพาะอาหาร ย่อยช้าอาหารเน่าเสีย ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ลดลง เลือดจึงขาดประสิทธิภาพ ดังนั้นการทานสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองจะช่วยเพิ่มสารอาหารเข้าสู่ตับ ตับจะสร้างเลือดจากสารอาหารที่ได้เพิ่มมากขึ้น เลือดที่มีมากขึ้นจะไหลเวียนสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย
สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทอง มีวิตามินบี 12 สูงถึง 200 ไมโครกรัม ต่อสาหร่าย 100 กรัม คือ มีวิตามินบี 12 มากกว่าไข่ไก่ถึง 100 เท่า และมากกว่าตับวัว 2.5 เท่า ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง รวมถึงโรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง Pernicious Anemia ซึ่งแพทย์จะใช้วิตามิน บี 12 ในการรักษาอาการชาตามปลายมือปลายเท้า และความจำไม่ดี
5. สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองช่วยบำรุงตับ
ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่ต่างๆ มากมาย เช่น ผลิตเลือด ผลิตน้ำดี (ย่อยไขมัน) ทำลายสารพิษ สะสมไกลโคเจน (พลังงานสำรอง ของร่างกาย) แต่การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ต้องเผชิญกับ ปัจจัยที่ทำให้ตับต้องทำงานหนัก เมื่อตับทำงานหนักและเสื่อมลง ตับก็จะเอาของเสียออกจากร่างกายได้น้อย ร่างกายก็จะเริ่มทรุดโทรมเสื่อมสภาพเพราะของเสียตกค้างอยู่ในร่างกายมาก สังเกตความเสื่อมของตับได้จาก ผิวหนังที่หมองคล้ำ (คล้ายคนอดนอน) และ ตาขาวเหลืองขุ่น หรือตาแดง คนไข้บางท่านก็มีอาการบ้านหมุน หรือน้ำในหูไม่เท่ากัน
สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหารที่ เหมาะสำหรับฟื้นฟูตับ เพราะ เนื้อเยื่อของตับประกอบด้วยสารประเภทโปรตีนถึง 70% ซึ่งใกล้เคียงกับโปรตีนที่มีอยู่ในสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองที่มีมากถึง 70% เช่นกัน (มากกว่าไข่ไก่และเนื้อสัตว์ 2-3 เท่า) การฟื้นฟูเซลล์ของตับที่เสียหาย ต้องใช้โปรตีนในการซ่อมแซม อีกทั้งสาหร่ายสไปรูลิน่า หรือสาหร่ายเกลียวทองสามารถย่อยง่าย และ ดูดซึมได้ถึง 95% ดังนั้น ตับจะได้รับโปรตีนและสารอื่นๆจำนวนมากเพื่อไปซ่อมแซมเซลล์ตับ และ ไม่ต้องทำงานหนักในการกำจัดของเสีย ตับก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว
วิธีรับประทาน รับประทานตอนเช้า 5 เม็ด และดื่มน้ำ 2 แก้ว
และ รับประทาน 1-2 เม็ด ก่อนนอน 30 นาที
ขนาดและราคา 1 ขวด 30 เม็ด ราคา 340 บาท
อ.ย. 13-1-02950-1-0021
สั่งสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://dspyrinasaibua.blogspot.com
บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง
สั่งซื้อและตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ : sboonmuen@gmail.com